อิรักใช้ขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลและซาอุดิอาระเบีย
รัฐบาลของอิรักเตรียมพร้อมที่จะโจมตีกลับเสมอหากถูกรุกราน ก่อนที่สงครามเริ่มต้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิรักทาริก อซิซถูกสัมภาษณ์โดยนักข่าวหลังจากการประชุมเพื่อสันติภาพกับสหรัฐที่เจนีวาล้มเหลวลง นักข่าวถามเขาว่า "ท่านรัฐมนตรีครับ ถ้าสงครามเริ่มขึ้น...อิรักจะตอบโต้หรือไม่" นายทาริกตอบว่า "ครับ แน่นอน"
ห้าชั่วโมงหลังจากการโจมตีครั้งแรก วิทยุของอิรักได้ประกาศว่า "ชัยชนะของเราอยู่แค่เอื้อมเมื่อเราเริ่มตอบโต้นี้" อิรักได้ยิงขีปนาวุธแปดลูกในวันต่อมา การใช้ขีปนาวุธเหล่านี้เกิดขึ้นตลอดสงคราม มีการยิงขีปนาวุธสกั๊ดไปทั้งหมด 88 ลูกในช่วงเจ็ดสัปดาห์ของสงคราม
อิรักหวังว่าจะกระตุ้นให้อิสราเอลเข้าร่วมสงครามด้วย รัฐบาลอิรักหวังว่าชาติอาหรับหลายชาติจะถอนตัวออกจากกองกำลังผสมหากอิสราเอลเข้าร่วมเพราะชาติอาหรับอาจลังเลใจที่จะอยู่ข้างเดียวกันกับอิสราเอล หลังจากการโจมตีครั้งแรก กองทัพอากาศอิสราเอลได้ส่งเครื่องบินเข้าลาดตระเวนบริเวณน่านฟ้าทางเหนือของอิรัก อิสราเอลเตรียมกองทัพเพื่อตอบโต้ตามนโยบายของตนตลอด 40 ปีที่ใช้การตอบโต้มาโดยตลอด อย่างไรก็ดีประธานาธิบดีบุชได้กดดันนายกเทศมนตรีของอิสราเอลยิตซัค ชาเมียร์ให้อยู่เฉยๆ เพราะกลัวว่าหากอิสราเอลโจมตีอิรัก ชาติอาหรับอื่นๆ อาจถอนตัวออกจากกองกำลังผสมหรือเข้าร่วมกับอิรัก นอกจากนี้สหรัฐยังกลัวว่าหากอิสราเอลใช้น่านฟ้าของซีเรียหรือจอร์แดนในการโจมตีอิรัก ชาติเหล่านั้นก็จะเข้าร่วมกับอิรักหรือโจมตีอิสราเอล กองกำลังผสมให้สัญญาว่าจะใช้ขีปนาวุธเพเทรียตป้องกันอิสราเอลจากขีปนาวุธสกั๊ด
ขีปนาวุธสกั๊ดที่ยิงใส่อิสราเอลนั้นพบว่าไร้ประสิทธิภาพ ด้วยการยิงที่พิสัยสูงสุดส่งผลให้ความแม่นยำและน้ำหนักระเบิดลดลง ห้องสมุดเสมือนชาวยิวได้รายงานว่ามีชาวอิสราเอล 74 คนเสียชีวิตจากการโจมตีของอิรัก สองคนเสียชีวิตจากการถูกระเบิดและที่เหลือเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจและหัวใจวายเฉียบพลัน มีชาวอิสราเอลประมาณ 230 คนได้รับบาดเจ็บ ในเหตุการณ์หนึ่งได้เกิดการโจมตีเข้าที่ละแวกเทล อะวิฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสามรายและบาดเจ็บอีก 96 ราย ทรัพย์สินมหาศาลได้รับความเสียหาย กระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลกล่าวว่า "ความเสียหายทั่วไปแก่ทรัพย์สินได้แก่ บ้าน 1,302 หลัง อพาร์ทเมนท์ 6,142 แห่ง สิ่งก่อสร้างสาธารณะ 23 แห่ง ร้านค้า 200 ร้าน และรถ 50 คัน" เป็นที่กลัวกันว่าอิรักจะยิงขีปนาวุธที่มีส่วนประกอบของแก๊ซทำลายประสาทหรือซาริน ผลที่ตามมาคือรัฐบาลอิสราเอลได้แจกจ่ายหน้ากากกันแก๊ซให้กับประชาชนของตน เมื่อขีปนาวุธลูกแรกยิงเข้าใส่อิสราเอล มีผู้คนบางจำนวนที่ฉีดยาถอนพิษให้กับตัวเอง
เพื่อโต้ตอบการใช้ขีปนาวุธของอิรัก สหรัฐได้ส่งขีปนาวุธเพเทรียตจำนวนมากเข้าไปยังอิสราเอลโดยมีแท่นยิงจรวดเอ็มไอเอ็ม-104 เพเทรียตสองแท่นเพื่อเอาไว้ปกป้องประชาชน กองทัพอากาศของกองกำลังผสมทำการฝึกล่าขีปนาวุธสกั๊ดอย่างจริงจังในทะเลทรายของอิรัก เพื่อหาตำแหน่งรถถังบรรทุกที่พรางตัวก่อนที่อิรักจะใช้มันยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลหรือซาอุดิอาระเบียได้ ทางภาคพื้นดินหน่วยรบพิเศษได้ทำการแทรกซึมเข้าไปยังอิรักเพื่อค้นหาและทำลายขีปนาวุธสกั๊ด เมื่อหน่วยรบพิเศษทำงานร่วมกับหน่วยลาดตระเวนทางอากาศทำให้การโจมตีมีความแม่นยำขึ้น ทางอิรักจึงเริ่มปรับเปลี่ยนยุทธวิธีเช่นกัน
กองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ใช้ขีปนาวุธเพเทรียตเพื่อตอบโต้ขีปนาวุธสกั๊ดเช่นกัน กระทรวงกลาโหมของเนเธอร์แลนด์กล่าวในเวลาต่อมาว่าการใช้เพเทรียตส่วนมากนั้นไร้ประสิทธิภาพ แต่ผลทางจิตวิทยานั้นกลับเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก แม้ว่าขขีปนาวุธเพเทรียตเองจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินมากกว่าที่ขีปนาวุธสกั๊ดทำเสียอีก มีการแนะนำว่าการที่อิสราเอลเสริมความแข็งแกร่งให้กับเมืองของตนนั้นมีบทบาทสำคัญที่ทำให้อิสราเอลสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากขีปนาวุธสกั๊ดได้ รวมทั้งเป็นเพราะว่าขีปนาวุธสกั๊ดจะทำการยิงแค่ในตอนกลางคืนเท่านั้น
ในขณะที่การโจมตีด้วยขีปนาวุธสกั๊ดดำเนินต่อไป อิสราเอลก็เริ่มหมดความอดทนและคิดจะดำเนินการรบฝ่ายเดียวกับอิรัก หลังจากการโจมตีที่รามัตกัน อิสราเอลได้เตือนว่าหากสหรัฐไม่สามารถหยุดยั้งขีปนาวุธได้อิสราเอลก็จะทำเอง เมื่อถึงจุดหนึ่งหน่วยคอมมานโดของอิสราเอลได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์และเตรียมบินไปยังอิรัก แต่ว่าถูกยกเลิกหลังจากมีโทรศัพท์จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมดิก เชนีย์ ซึ่งโทรมารายงานว่ากองกำลังผสมได้เพิ่มความพยายามที่จะทำลายขีปนาวุธสกั๊ดและย้ำว่าการแทรกแซงของอิสราเอลอาจทำให้กองกำลังของสหรัฐตกอยู่ในอันตราย
นอกจากเหนือจากการโจมตีอิสราเอลแล้ว อิรักยังได้ยิงขีปนาวุธสกั๊ด 47 ลูกเข้าใส่ซาอุดิอาระเบียและยิงใส่บาห์เรนและกาตาร์แห่งละลูก ขีปนาวุธเหล่านั้นเล็งเป้าไปที่ทหารและพลเมือง มีพลเมืองชาวซาอุหนึ่งคนเสียชีวิตและอีก 78 คนได้รับบาดเจ็บ ไม่มีผู้เสียชีวิตในบาห์เรนและกาตาร์ รัฐบาลของซาอุได้แจกจ่ายหน้ากากกันแก๊ซให้กับประชาชนและผู้อพยพเพื่อปกป้องการใช้อาวุธเคมีหรือขีวภาพของอิรัก รัฐบาลยังได้ประกาศเตือนภัยและปลอดภัยผ่านทางโทรทัศน์เพื่อเตือนประชาชนเสมอเมื่อเกิดการโจมตี
ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ขีปนาวุธสกั๊ดลูกหนึ่งตกใส่ค่ายกองทหารพลาธิการที่ 14 ของสหรัฐในดาห์ราน ประเทศซาอุดิอาระเบีย สังหารทหารไป 28 นายและบาดเจ็บอีกกว่า 100 นาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น