เทคโนโลยี
อาวุธนำวิถีด้วยความแม่นยำ เช่น ขีปนาวุธนำวิถีเอจีเอ็ม-130 ของสหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตีทุกครั้งสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตพลเรือนได้มากกว่าสงครามครั้งก่อนๆ แม้ว่ามันจะถูกใช้น้อยครั้งกว่าระเบิดทั่วไปที่ไร้ความแม่นยำก็ตาม กองกำลังผสมสามารถระเบิดอาคารในย่านเมืองของแบกแดดได้ในขนาดที่ว่านักข่าวในโรงแรมสามารถเห็นขีปนาวุธกำลังบินเข้าหาเป้าหมาย
อาวุธนำวิถีด้วยความแม่นยำคิดเป็น 7.4% ของระเบิดทั้งหมดที่กองกำลังผสมใช้ ระเบิดแบบอื่นๆ ได้แก่ชุดระเบิดพวง ซึ่งจะระเบิดและกระจายระเบิดขนาดย่อมออกไปทั่วบริเวณ และระเบิดเดซี่คัตเตอร์ขนาด 15,000 ปอนด์ที่สามารถทำลายทุกสิ่งในรัศมีหลายร้อยหลา
ระบบจีพีเอสเองก็มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้กองกำลังผสมสามารถหาทางข้ามทะเลทรายขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย แต่ด้วยการที่เครื่องรับสัญญาณมีจำนวนน้อย บางหน่วยจึงต้องใช้แบบที่เป็นเชิงพาณิชย์แทน และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดจึงต้องปิดการตั้งค่าบางอย่างของระบบจีพีเอสในช่วงปฏิบัติการพายุทะเลทรายเพื่อให้ตัวรับสัญญาณแบบเชิงพาณิชย์สามารถให้ตำแหน่งที่แม่นยำเทียบเท่าแบบของทหาร
ระบบแจ้งเตือนและควบคุมทางอากาศหรือเอแว๊กส์ (AWACS) และระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมมีบทบาทสำคัญมากในสงคราม ตัวอย่างเช่น เครื่องบินกรัมแมน อี-2 ฮอว์คอายและโบอิง อี-3 เซนทรีของสหรัฐ เครื่องบินทั้งสองแบบถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการบัญชาการและควบคุม ระบบดังกล่าวทำให้การสื่อสารระหว่างทหารอากาศ ทหารบก และทหารเรือเป็นไปได้ง่าย นี่เป็นหนึ่งในหลายสาเหตุที่กองกำลังผสมสามารถเอาชนะการรบทางอากาศได้
อิรักได้ใช้เครื่องทำสำเนาของอเมริกาในการสร้างแผนการรบของตนเอง แต่เครื่องทำสำเนาเหล่านั้นกลับมีตัวส่งสัญญาณที่ถูกซ่อนเอาไว้ทำให้อากาศยานการสงครามอิเลคทรอนิกของสหรัฐสามารถจับตำแหน่งของฝ่ายอิรักและโจมตีเป้าหมายเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำ
ขีปนาวุธสกั๊ดและเพเทรียต
บทบาทของขีปนวุธสกั๊ดมีความโดดเด่นอย่างมากในสงคราม สกั๊ดเป็นขีปนาวุธยุทธวิธีที่สหภาพโซเวียตพัฒนาขึ้นและถูกใช้โดยกลุ่มกองกำลังโซเวียตในเยอรมนีของกองทัพแดงที่ประจำการอยู่ในเยอรมนีตะวันออก มันมีหัวรบเป็นระเบิดนิวเคลียร์และหัวรบเคมีที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายส่วนควบคุมและบัญชาการของเยอรมนีตะวันตก นอกจากนี้แล้วยังสามารถใช้เพื่อยิงเข้าใส่ทหารราบโดยตรงได้อีกด้วย
ขีปนาวุธสกั๊ดใช้ตัวนำวิถีแบบเฉื่อยซึ่งจะทำงานอยู่สักระยะพร้อมกับเครื่องยนต์ อิรักใช้สกั๊ดเพื่อโจมตีใส่อิสราเอลและซาอุดิอาระเบีย ขีปนาวุธบางลูกสร้างความเสียหายมหาศาลในขณะที่บางลูกทำได้เพียงเล็กน้อย ความกลัวต่อสกั๊ดเพิ่มขึ้นเมื่อคาดกันว่าอิรักอาจใช้หัวรบที่เป็นอาวุธชีวภาพหรือเคมี แต่กระนั้นก็ไม่มีขีปนาวุธแบบดังกล่าวโจมตีใส่ที่ใด
ขีปนาวุธเพเทรียตของสหรัฐถูกนำมาใช้ในสงครามเป็นครั้งแรก กองทัพสหรัฐอ้างว่ามันสามารถจัดการกับขีปนาวุธสกั๊ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การวิเคราะห์ภายหลังพบว่าขีปนาวุธเพเทรียตยิงถูกแค่ 9% เท่านั้น ในขณะที่ 45% เป็นการยิงใส่เศษซากของขีปนาวุธหรือยิงผิดเป้าหมาย กระทรวงกลาโหมของเนเธอร์แลนด์ที่ได้นำขีปนาวุธเพเทรียตไปใช้เพื่อปกป้องพลเรือนในอิสราเอลและตุรกี ได้อ้างในเวลาต่อมาว่าขีปนาวุธเพเทรียตทำได้ดีกว่านั้นนอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่ซอฟต์แวร์ของขีปนาวุธเกิดขัดข้องทำให้ไม่สามารถเข้าสกัดขีปนาวุธสกั๊ดได้และลงเอยด้วยการมีผู้เสียชีวิต ทั้งกองทัพสหรัฐและบริษัทผู้ผลิตขีปนาวุธยังคงย้ำว่าขีปนาวุธเพเทรียต"ทำหน้าที่ได้ราวกับปาฏิหารย์"ในสงครามอ่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น